ESL และ Intel ประกาศรายการแข่งขันพิเศษ IEM Beijing-Haidian

IEM Beijing Haidian
แชร์ข่าว
Share on facebook
Facebook
Share on twitter
Twitter

ESL และ Intel ได้ประกาศรายการแข่งขัน IEM Beijing-Haidian ซึ่งจะมีการฉลองครบรอบ 10 ปี โดยมี 8 ทีม จะเข้าแข่งขันที่ มหาวิทยาลัยปักกิ่ง ยิมเนเซี่ยม เพื่อชิงเงินรางวัลกว่า 250,000 เหรียญสหรัฐ หรือ 205,518.75 ปอนด์ ในวันที่ 7-10 พฤศจิกายน

Team Liquid และ Astralis สองหาอำนาจของ ESL ได้รับการยืนยันว่าจะร่วมแข่งรายการนี้ โดยมีอีกสามทีมที่จะได้รับคำเชิญ ขณะที่อีกสามโคต้าที่เหลือจะเป็นการคัดเลือกแบบอนไลน์ในเอเชีย, จีน และ ยุโรป ตามลำดับ

Michal Blicharz รองประธานของ Pro Gaming ที่ ESL ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา IEM จัดการแข่งขันในประเทศจีน เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เดินทางมาประเทศจีนในหลายๆ ปีที่ผ่านมา อีสปอร์ต ในประเทศจีนโตเร็วมาก และเป็นเหมือนศูนย์รวมของโลก เราจะสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการการแข่งขัน IEM ครบอรอบ 10 ปี ที่เมืองหลวงของจีน”

“เพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่นี้ เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะใช้สนามกีฬาที่โด่งดังไปทั่วโลกแทนที่จะสถานที่จัดงานแสดงสินค้า และเราภูมิใจที่จะนำการแข่งขันของเราไปสู่แฟน ๆ นี่เป็นเพียงการเริ่มต้นครั้งใหม่สำหรับอีสปอร์ตในเอเชีย โดยเฉพาะในประเทศจีน”

ทั้ง 8 ทีม จะเล่นรอบแบ่งกลุ่ม เจอเพื่อนร่วมกลุ่มเป็นจำนวนสองเกม เพื่อเอาที่ที่ดีที่สุดสี่อันดับแรกเข้ารอบเพลย์ออฟ และเล่นแบบแพ้ตัดออก โดดยใช้กฏดีที่สุดในสามเกม

รอบชิงชนะเลิศ จะมีขึ้นในวันที่ 10 พฤศจิกายนจะเป็นกฏดีที่สุดในห้าเกม พร้อมรับสิทธิ์ได้ไปเล่นใน Intel Grand Slam ฤดูกาลหน้าอีกด้วย

ฉาง จินหลิน รัฐมนตรีกระทรวงการประชาสัมพันธ์ของ ไฮเตี้ยน “การเล่นเกมถือเป็นรวบรวมวัฒนธรรมและเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน ไฮเตี้ยน ถือเป็นถิ่นนวัตกรรมและการพัฒนาของจีน พร้อมกับเป็นเขตที่ดีที่สุดสำหรับการพัฒนาอุตสาหกรรม esports เช่นเดียวกับ IEM ที่เป็นผู้นำด้านกีฬาชนิดนี้ที่มีส่วนช่วยยกระดับ ไฮเตี้ยน ให้เจริญ ไปอีกขั้น “

IEM Beijing-Haidian ถือเป็นรายการที่สี่ของ IEM หลังจากที่จัดการแข่งขัน IEM Katowice, IEM Sydney และ IEM Chicago มาแล้ว

Esports Insider กล่าวว่า “IEM ได้สร้างรายการที่ยอดเยี่ยม หลังจากทำมาตลอดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ดังนั้นเราจึงไม่สงสัยเลยว่า IEM Beijing-Haidian จะสร้างชื่อได้อีกครั้ง ตอนนี้เราอยากรู้มมากๆ ว่าคนที่นั้นเข้ารู้สึกอย่างไรกันบ้าง”