Abaddon นักรบผู้ถูกทอดทิ้ง
Abaddon อีโร่สาย Strength ตีใกล้ ที่มีความหลากหลายในการเล่นมาก
เนื่องจากสกิลที่ใช้มานาน้อยและคูลน์ดาวน์แต่ละสกิลที่น้อย โดยมีทางเลือกในการเล่นมากมาย
จะเล่นในแบบคอยซัพพอร์ตเพื่อนร่วมทีม เป็น Support ก็ทำได้ดี ไม่ต้องใช้ของอะไรมาก
ในการที่จะแสดงประสิทธิภาพ Mist cole แม้ใน 7.00 จะถูกปรับความเร็ว Projectile ลง
แต่ก็ยังเป็นสกิลที่แข็งแกร่งอยู่ดี Apotic Shield เป็นหนึ่งในสกิล Debuff ลบสถานะที่ดีที่สุด
เนื่องจากลบสถานะอื่นๆได้หมดแทบจะเกือบทุกสกิล เป็นรองอาจจะแค่ Repel ของ Omniknight เท่านั้น ศักยภาพในการเป็น Offlane ก็แข็งแกร่งในระดับนึง
เนื่องจากไม่ต้องใช้อะไรมากและมีสกิลที่ช่วยให้มีชีวิตรอดสูง
Abaddon Offlane สามารถสนับสนุน Carry Right click ในทีมได้อย่างมาก แถมถ้ามีของ
ก็ยังฆ่ายากในกลางถึงเลทเกม อีกฝ่ายเลยแถบจะไม่สนใจเราในทีมไฟต์ ทำให้เรายืนใส่สกิลให้เพื่อนหรือยืนตีฟรีได้เลย สามารถเป็น Tank หรือ Semi-Carry ก็ได้ สิ่งที่ขาดเพียงอย่างเดียว น่าจะเป็นการที่ไม่มี Disable เลยนอกจากการสโลว์ของ Curse of Avernus ทำให้ต้องพึ่งทีม
ในการเข้าทำ ให้จังหวะ ในกรณีที่ออกของสนับสนุนการ Right click มา Borrow time เป็นหนึ่งในสกิลที่ทำให้ Abaddon ฆ่ายากและถูกเมินจากการไฟต์บ่อยๆ
ด้วยความที่ลบสถานะอื่นๆทั้งหมด และซึมซับดาเมจทั้งหมดในระยะเวลาสกิล ถ้ามี Aghanim Scepter ที่ลดดาเมจให้เพื่อนร่วมทีมรอบๆ บางทีช่วยให้เพื่อนรอดจาก Burst หนักๆจนพลิกไฟต์ได้
ถึง 7.00 จะทำให้ความนิยมลดลงไปบ้าง จากการเนิร์ฟของสกิล Mist cole แต่คนก็ยังเลือกมากันอยู่
แต่ส่วนมากจะหยิบมาเล่นในตำแหน่ง Offlane แล้ว Build เป็น Semi-Carry มากกว่า
แนวทางการอัพสกิล
● เลเวล 1 นั้นอยู่ที่ว่าเราหยิบมาเล่นในตำแหน่งอะไร ถ้าเราเล่น Support Apotic shield เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ถ้าเป็น Offlane ก็อาจจะหยิบ Curse of Avernus มาแทนในการยืนเลน
หรือถ้าคิดว่าจะถูกกดดันในเลน ก็อัพ Apotic Shield มาแทนในการ Sustain ในเลน
● Build ข้างบนคือ Support จ๋าๆ ที่เน้นการซัพพอร์ตเพื่อนร่วมทีมล้วนๆ
คือจะเน้น Apotic shield จนเต็มก่อนแล้วอัพ Mist cole ตามเพื่อช่วยเหลือเพื่อนให้มากที่สุด
มีสายอื่นๆอีกที่เป็นไปได้ เช่น การอัพ Curse of Avernus ที่เลเวล 2 ในกรณีที่กดดันเลนนั้นได้ หรือมีโอกาสได้เข้าไปตี เข้าไปตอดอีกฝ่ายได้ แล้วหลังจากนั้นก็กลับมาอัพ Apotic Shield และ Mist cole จนเต็ม ถึงไปอัพ Curse of Avernus ให้เต็มเป็นสกิลสุดท้าย
● อีก Build สำหรับ Offlane คือ การเลือกอัพ Apotic Shield ให้เต็มก่อน และตามด้วย Curse of Avernus เพื่อช่วยเพิ่ม Atk speed อย่างมาก ยิ่งถ้ามี Echo Sabre จะทำให้
Stack สกิลได้ไวขึ้นมากๆ
● Apotic Shield เป็นสกิลที่ควร Max สกิลแรกเนื่องจากผลของการดีบัฟสารพัดประโยชน์
ดาเมจที่เกราะป้องกันนั้นเหมือนของแถมที่ก็ดีมากๆอีกเช่นกัน ไม่ว่าจะใช้ใส่ให้ใครก็ตาม
แต่ส่วนมากแล้ว ควรจะใช้ใส่เพื่อนร่วมทีมที่ตัวบางๆ หรือคิดว่าจะถูกเล็งเป็นเป้าแรกๆ
ไม่ควรใส่ตัวเองเพราะศัตรูมักไม่ค่อยจะเล็งเราแล้วหลังจากเราพ้นเลเวล 6 ไป
● Mist Cole หนึ่งในสกิลช่วยชีวิตรอดที่แม้จะถูกเนิร์ฟ แต่ก็ยังมีประโยชน์อยู่
ส่วนมากจะใช้ให้เพื่อนหลัง Apotic Shield เนื่องจากความเร็ว Projectile ที่ลดลง ทำให้ระยะ
เวลาร่ายแถบจะพอๆกัน สกิลนี้ยังสามารถใช้ในการ Denied ตัวเองได้ ถ้ากะได้จังหวะดีๆ
ควรใช้สกิลนี้เสมอถ้าไม่ติด Cooldown ในเวลาที่ Burrow Time ถูกเปิดใช้อยู่
เพื่อจะได้รับการ Heal เพิ่มแทนการทำดาเมจปกติของสกิล
● Curse of Avernus สกิลที่ช่วยให้ Abaddon มีความหลากหลายในการเล่น มีตัวช่วย
ในการทำดาเมจหรือช่วยเพิ่ม Atk speed ให้ Carry และเพื่อนร่วมทีมฝั่งเรา
สกิลนี้มีผลกับ Tower และสิ่งก่อสร้างด้วย ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพการ Push ขึ้นไปอีก
● Borrow Time สกิลที่ทำให้การ Sustainในทีมไฟต์ของ Abaddon แข็งแกร่งมากๆ
ทำให้สามารถเป็นแนวหน้า หรือเข้าไปช่วยเพื่อนในจุดเสี่ยงๆโดยที่ไม่ต้องกลัวจะโดน
Burst ตายก่อนเข้าไปถึง และยิ่งเป็น Semi-Carry ยังทำให้เราแทบจะได้ตีฟรีๆ
ในช่วงเวลา Burrow Time ถ้ามีคทาฟ้าด้วยจะยิ่งทำให้ทีมเล่นง่ายในทีมไฟต์มากๆ
● สิ่งที่ควรระวังสำหรับ Borrow Time คือ สกิลจำพวก Burst หนักๆหรือคิดเป็นเปอร์เซ็นเลือด อาจทำให้สกิลไม่แสดงผล เพราะเราตายก่อนนั่นเอง เช่น Culling Blade ของ Axe , Tornado ของ Invoker . Ice Blast ของ Ancient Apparentice
Item
Beginning of the game ไอเทมเริ่มต้น
ไอเทมเริ่มต้นหลักๆแล้วแต่ว่าเราจะไปต่อที่ไอเทมไหน อาจจะเพิ่มหรือลดอะไรมากหน่อย แล้วแต่
Stout Shield สำหรับกรณี Offlane หรือยืนเลนยาก อาจแทนที่ด้วย Ring of protect แทนก็ได้
Windlace เพิ่ม Movement Speed แต่อาจจะไม่คุ้มเนื่องจากไม่ได้จะออกของอะไรต่อ
Blightstone เผื่อการไปต่อเป็น Medalion of courage
Early game ต้นเกม
ช่วงต้นเกม ถ้าเราพอมีเงินบ้าง สำหรับ Offlane อาจจะเร่งออก Armlet หรือข้ามไปเป็น Echo Sabre เลยก็ได้ ส่วน Support อาจจะเลือก Soulring + Tranquil boots หรือ Arcane boots มาช่วย
ในเรื่องของมานา ที่ถึงแม้แต่ละสกิลจะใช้มานาน้อย แต่คูลดาวน์สกิลที่น้อยเลยได้ใช้บ่อยๆ
Core item ไอเทมสำคัญ
Echo Sabre เป็นไอเทมที่ดีมากๆ ในการ Stack Curse of Avernus และยังช่วยเพิ่มสเตตัสหลายๆอย่างที่ Abaddon ขาด
Vladimir Offering เพิ่มออร่าดาเมจให้กับเพื่อนและตนเอง ที่สำคัญคือการ Life Steal ที่คุ้มมากๆ
ยิ่่งถ้าทีมมี Carry ที่ตีใกล้ก็ถือว่าคุ้มขึ้นไปอีก
Blade mail ในกรณีที่อีกฝ่ายเล็งเก็บเราก่อน(ซึ่งไม่ค่อยเกิดขึ้นนัก) ก็อาจจะเลือกไอเทมนี้ได้
Aghanim Scepter ลดดาเมจให้เพื่อนรอบๆ ซึ่งดีมากๆ แม้เราจะกดใช้อันติไปก่อนก็ตาม
มันทำให้ทีมอาจรอดจากการโดนเปิดจังหวะแรก แล้วสวนคืนไฟต์นั้นๆได้
Aether lense ช่วยเพิ่มระยะสกิล ทำให้เสริมประสิทธิภาพการช่วยเหลือเพื่อนๆขึ้นไปอีก
Mekanism Heal ยิ่งเยอะยิ่งดีเสมอในทีมไฟต์ ถ้าเรามี Arcane boots อาจจะออกมาด้วยก็ได้
เพื่อจะไปต่อเป็น Guardian Greave ในช่วง Late game
Helm of dominator ภายหลังที่ถูกเปลี่ยน คนออกก็เริ่มน้อยลง กลายเป็นตำแหน่งอื่นที่ออกมาเสริม
หรือ Carry บางตัวจริงๆที่ได้ประสิทธิภาพจาก Atk Speed ซึ่ง Abaddon ก็เป็นหนึ่งในนั้น
ที่ต้องการ Atk ช่วยในการ Stack Curse of Avernus
Medalion of courage ได้ทั้งเกราะและมานาที่ Abaddon ต้องการแถมยังลดเกราะซึ่งได้ผลดีร่วมกับ Curse of avernus
Late Game ช่วงท้ายเกม
ถ้าเป็น Support ก็พิจารณาดูเลยครับว่าทีมขาดหรือต้องอะไร Offlane อาจจะเน้นดาเมจหรืออุดข้อด้อย
ที่ตนเองตอนนั้นขาด เช่น ดาเมจ , Atk speed หรือ Life steal
Pipe Of insight ในกรณีที่อีกทีมดาเมจเวทย์เยอะมากๆ หรือมี Burst หนักๆ เช่น Lina , Pugna , Ember หรือ Crimson Guard ในการช่วยป้องกันดาเมจกายภาพให้ตนเองและเพื่อนรอบๆ
Black King Bar ในกรณีที่อีกทีมมีสกิลขัดหรือ AOE เยอะ
Guardian Greave อัพเกรดเพื่อประหยัดช่อง ช่วยเพิ่มอัตราการอยู่รอด และ การทำเกม เนื่องจาก cooldown ที่น้อย + ทาเล้นต์ลดคูลดาวน์อีก จะยิ่งคุ้มมากๆ
Solar Crest อัพเกรดต่อมาจาก Medalion of courage ที่คุ้มทั้งลดเกราะและได้รับการหลบหลีก
การลดเกราะฮีโร่ตัวที่เราเล็ง + บัฟจาก Curse of avernus นั้นทรงพลังมากๆ
Abyssal Blade ช่วยในการเพิ่มจังหวะเข้าทำ กรณีที่เจอตัวที่จับยากๆ เช่น Queen of pain , Slark
และเพิ่มดาเมจรวมถึงโอกาสติด Bash ที่ค่อนข้างหวังผลได้ เนื่องจากบัฟของสกิล Curse of avernus
หรืออาจเปลี่ยนเป็น Guinso แทนในกรณีที่เป็น Support
Monkey King Bar ไอเทมที่เพิ่มสองสิ่งที่ Abaddon ต้องการ นั่นคือ Atk Speed และ Damage
Assault Cuirass ไอเทมที่เพิ่มความถึกและ Atk Speed อีกทั้งออร่าเพิ่ม/ลดเกราะยังมีประโยชน์สุดๆ
Eye of Skadi เพิ่ม Stat มหาศาลและการ Slow ที่เพิ่มขึ้น จนศัตรูแทบจะไม่ได้เดินด้วยซ้ำ
เป็นไอเทมที่คุ้ม ถ้าเรามีโอกาสได้ตี แต่ข้อเสียคือค่อนข้างแพงมากเช่นกัน
Mjolnir ไอเทมที่ช่วยเพิ่มสิ่งที่ Abaddon ต้องการ Atk ที่เพิ่มมากับเกราะสายฟ้าก็ทำให้คุ้มที่จะออก
Necronomicon ในกรณีที่ทีมดันบ้านไม่ขึ้น อาจจะออก Necronomicon มาช่วย Push หรือช่วยส่อง
True Sight ในกรณีที่อีกทีมมีฮีโร่ Windwalk ได้
Hero Talent
Lv. 10 : แล้วแต่ว่าเรามีโอกาสได้โจมตีอีกฝ่ายแค่ไหน ถ้าเล่น Offlane ดาเมจที่ได้มา
ค่อนข้างคุ้มมากกว่า Xp แต่ถ้าเป็นซัพพอร์ตที่จะยืนระยะกลางถึงหน้า อาจจะไม่ค่อยได้โจมตีมากนัก
เนื่องจากต้องคอยใส่โล่และฮีลให้เพื่อน ทำให้หลุดออกไปแนวหน้าไม่ค่อยได้ Xp จึงคุ้มกว่านั่นเอง
Lv. 15 : แม้ Abaddon จะมีปัญหากับมานาอยู่บ้าง จากการที่ได้ Spam สกิลบ่อยๆ
แต่เกราะที่เพิ่มมาอาจทำให้เรามีชีวิตรอดได้มากกว่าจาก Carry อีกทีม
ยกเว้นแต่บางเกมที่เราจำเป็นต้องใช้มานาเยอะจริงๆ หรือไม่ถูกเล็งเป้าจากอีกฝ่ายเลย
ถึงจะแนะนำให้เลือกอัพ 200 Mana
Lv. 20 : ลดคูลดาวน์นั้นดีมากๆ เพราะมีผลกับ Item ด้วย ดังนั้นจึงดีกว่า Movement Speed มากๆ
ไม่ว่าเราจะเป็น Offlane หรือ Support ก็ตาม ลดคูลดาวน์ทำให้ทั้ง Apotic Shield และ Mist cole
ไวกว่าเดิมมาก และยิ่งเรามีไอเทมกดใช้ก็จะยิ่งคุ้มขึ้นไปอีก เช่น Mekanism , Arcane Boots
Lv. 25 : เป็นทาเล้นต์ที่ดีทั้งคู่ 25 Strenght ได้ทั้งเลือดและดาเมจเพิ่มขึ้นมา
อาจอยู่ที่ว่าตอนนั้นเราเป็นตำแหน่งอะไร หรือขาดอะไร ดาเมจหรือเสริมการป้องกันให้เพื่อนขึ้นไปอีก
Worst matchup ตัวที่แก้ทาง
● Laguna Blade สามารถทะลุ Burrow Time ได้ (ถ้าใช้ในจังหวะที่ดาเมจสกิลมากกว่าเลือด)
● Finger of Death ทะลุ Burrow Time ด้วยเช่นกัน
● ถ้า Culling Blade สำเร็จผลของ Burrow Time ก็ไม่แสดงผล
● Ice Blast ทำให้ทั้ง Burrow Time และ Mist cole ไร้ผล ทำให้เล่นลำบากขึ้นมากๆ
● Astral Prisoner สามารถใช้เพื่อทำให้ระยะผลของ Burrow Time ไร้ผล (ออกมาก็หมดระยะสกิลพอดี)
● Arcane Orb สามารถ Stack Int เพื่อใช้ Sanity Eclipes ได้
โดยที่ Burrow Time ไม่แสดงผล
● Doom ทำให้ Support Abaddon ช่วยอะไรเพื่อนในทีมไม่ได้ แถมยิ่งถ้ามี Aghanim Scepter คือแทบจะเป็นเป้านิ่งๆในทีมไฟต์ไปเลย
● Essence Shift สามารถขโมย Stat ต่อไปเรื่อยๆได้ ในขณะที่ Burrow Time แสดงผลอยู่
ทำให้ Slark เก่งขึ้นเรื่อยๆ
● Abaddon ไม่มีอะไรที่ใช้จับ Slark ได้
อื่นๆที่แพ้ทาง
● Item จำพวกใบ้หรือ Break เช่น Orchid , Bloodthron , Silver Edge
● Item ขัดจังหวะ เช่น Eul scepter . Guinso
● Item Burst หนักๆ ที่ทำให้ Burrow Time แสดงผลไม่ทัน เช่น Dagon , Etheral Blade